ดอกลิลลี่ ประวัติและความหมายของดอกไม้แห่งความบริสุทธิ์ใจ ดอกลิลลี่มีที่มาที่ไปอย่างไร เป็นตัวแทนความรู้สึกอะไรได้บ้าง วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า “ดอกลิลลี่” เป็นดอกไม้แห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ผู้คนจึงนิยมนำไปมอบให้กับคนรักในวันสำคัญ เพื่อแสดงถึงความจริงใจที่มีให้กัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น รู้หรือไม่ว่าดอกลิลลี่สามารถสื่อความรู้สึกมากกว่าความรัก ความบริสุทธิ์ใจ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอหยิบประวัติกับเรื่องน่ารู้ พร้อมความหมายของดอกลิลลี่แต่ละสี แต่ละชนิดมาฝากกัน ว่าแล้วอย่ารอช้าตามเราไปทำความรู้จักกับดอกไม้ยอดนิยมนี้พร้อม ๆ กันเลย
เรื่องน่ารู้ของดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่ มีชื่อสามัญว่า “Lily” เป็นไม้ดอกในตระกูล “Liliaceae” มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชีย แถบประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่น เป็นสายพันธุ์พืชประเภทหัว ที่มีกลิ่นหอม ดอกอูมใหญ่ มีหัวสะสมและหล่อเลี้ยงอาหารอยู่ใต้ดิน สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยการใช้หัวปักชำ โดยลิลลี่หนึ่งลำต้นสามารถแบกรับตัวดอกได้ 4 หรือ 8 ดอก เมื่อบานแล้วจะมีอายุ 1-2 สัปดาห์ก่อนร่วงโรยไป มีความสูงโตเต็มที่ประมาณ 0.6-1.8 เมตร
สมัยโบราณมีคนนำดอกลิลลี่มาทำเป็นอาหารและยารักษาโรค เนื่องจากมีแป้งและสารอาหารอยู่มาก ซึ่งแม้ว่าดอกลิลลี่ส่วนใหญ่ รวมถึงดอกลิลลี่ป่าจะไม่มีพิษภัยต่อมนุษย์ แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่าง แมว หากเผลอกินเข้าไปอาจทำให้อาเจียน ท้องเสีย หรือเป็นพิษขนาดทำให้ตายได้เลยทีเดียว
ประวัติของดอกลิลลี่
ตามความเชื่อในปกรณัมกรีกโบราณ ดอกลิลลี่ เกิดจากน้ำนมของเทพีเฮร่า ภรรยาของราชาแห่งเทพเจ้าซุส แต่เพราะมีหน้าตาขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องมากเกินไป วีนัส ผู้เป็นเทพีแห่งความงาม จึงเกิดกลัวขึ้นมาว่า ดอกไม้พันธุ์จะสวยสง่าเกินหน้าเกินตาของตัวเอง เลยสาปแช่งให้มีจุดด่างพร้อยขึ้นที่ใจกลางดอก นั่นก็คือส่วนเกสรดอกไม้ตัวเมีย ที่ยื่นยาวผิดจากดอกไม้ทั่วไป แถมด้วยจุดตะปุ่มตะป่ำเล็ก ๆ ที่กระจายไปตามกลีบดอก นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมดอกลิลลี่บางสายพันธุ์ถึงได้มีลายจุดเล็ก ๆ กระจายตามกลีบดอก
ในส่วนของประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่า สายพันธุ์ดอกลิลลี่สีขาวที่แท้จริงเกิดขึ้นครั้งแรกบนเกาะครีต ประเทศกรีซ ตั้งแต่สมัย 1580 ปีก่อนคริสตกาล โดยชาวบ้านชาวคริสต์ใช้เป็นสัญลักษณ์ของการเจริญพันธุ์ การเติบโตงอกงาม การเกิดใหม่ ก่อนนักสำรวจชาวยุโรปจะมาเจอเข้า แล้วนำไปใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคภัยในยุควิกตอเรีย หลังจากนั้นหนึ่งในนักสำรวจ ออกัสติน เฮนรี่ (Augustine Henry) เปลี่ยนเป้าหมายจากการตามล่า เป็นออกตามหาสถานที่เพาะพันธุ์ดอกลิลลี่ขึ้นมาเอง เกิดเป็นลิลลี่สีส้มสายพันธุ์ Lilium henryii หรือ Henry’s lily ต่อมานักสำรวจ อี.เฮช. วิลสัน (E.H. Wilson) ได้ค้นพบลิลลี่สีขาวสายพันธุ์ใหม่ที่ประเทศจีนเรียกว่า Lilium Real
นอกจากนี้ การที่ดอกลิลลี่ Easter Lily ซึ่งมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นสายพันธุ์ที่แพร่หลายไปทั่วโลก เกิดมาจากการที่ หลุยส์ ฮอตัน (Louis Houghton) ทหารชาวอเมริกัน เก็บหัวของดอกลิลลี่ จากสนามรบกลับไปแบ่งปันให้เพื่อนบ้านของเขา เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง ด้วยความที่ดอกลิลลี่นั้นโตไว โตได้เองไม่ต้องดูแลมาก รวมถึงมีหน้าตาสวยงาม มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ก็คงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมมันจึงกลายเป็นดอกไม้ที่ขยายพันธุ์กระจายไปทั่วโลก และติดอันดับดอกไม้ยอดนิยมอย่างทุกวันนี้
ความหมายของดอกลิลลี่แต่ละชนิด
- ลิลลี่ลูกผสมเอเชีย (Asiatic Lily) เป็นสัญลักษณ์ของ “ชีวิตคู่, ความบริสุทธิ์ใจ”
ในความเชื่อของชาวตะวันตก มักใช้ลิลลี่สายพันธุ์ลูกผสมเอเชียสำหรับจัดตกแต่งในงานวิวาห์ งานเฉลิมฉลองวันแรกเกิด วันขึ้นบ้านใหม่ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตคู่ ความบริสุทธิ์ผ่องใส สื่อความหมายถึงคำอวยพรให้การเริ่มต้นใหม่ ทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัว และการเงินเป็นไปได้ด้วยดี
- ลิลลี่ลูกผสมตะวันออก (Oriental Lily) เป็นสัญลักษณ์ของ “งานวิวาห์”
ดอกไม้อันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของพระแม่มารี แน่นอนว่าต้องสื่อถึงความรักบริสุทธิ์ และความรักไม่มีเงื่อนไขที่แท้จริง จึงนิยมทำเป็นช่อดอกไม้มอบให้คู่บ่าว-สาวในวันแต่งงาน เหมือนเป็นของขวัญแทนใจให้ทั้งคู่ได้พบเจอกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความเชื่อใจของกันและกัน
- ลิลลี่ลายเสือ (Tiger Lily) เป็นสัญลักษณ์ของ “ความมั่งคั่ง, โชคลาภ, ศักดิ์ศรี”
ด้วยรูปร่างหน้าตา ลวดลาย และสีสันที่ฉูดฉาดเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ดอกลิลลี่ลายเสือ กลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นใจ ความมั่งคั่ง พร้อมบุก พร้อมลุยทุกอุปสรรคที่ขวางหน้า นิยมมอบให้ผู้ที่กำลังจะเริ่มงานใหม่ หรือผู้ที่เราต้องการอวยพรให้เขาผ่านพ้นทุกอุปสรรคไปได้ด้วยดี
- คาลล่า ลิลลี่ (Calla Lily) เป็นสัญลักษณ์ของ “ความศรัทธา, ความแข็งแกร่ง, ความสวยงาม”
สำหรับดอกคาลล่า ลิลลี่ จะสื่อความหมายแตกต่างออกไป ตามวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ยุคกรีกโบราณ คาลล่า ลิลลี่ เป็นสัญลักษณ์ของ ความสวยความงาม, ในศาสนาคริสต์ เป็นสัญลักษณ์ของ ความศรัทธาและความไร้เดียงสา, ในวัฒนธรรมฝั่งตะวันตก เป็นสัญลักษณ์ของ ความแข็งแกร่ง เนื่องจาก คาลล่า ลิลลี่ สามารถงอกดอกใหม่ขึ้นมาได้เอง แม้จะตัดไปเลี้ยงในแจกันก็ตาม
ความหมายของดอกลิลลี่แต่ละสี
- ดอกลิลลี่สีขาว ตัวแทนของ “ความบริสุทธิ์ใจ, ความไร้เดียงสา, ความอ่อนน้อมถ่อมตน”
ดอกลิลลี่สีขาวเป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับความบริสุทธิ์ สันติสุข และสรวงสวรรค์ ชาวตะวันตกจึงนิยมนำมาใช้ประดับตามงานศพ หรือวางหน้าหลุมศพเพื่อแสดงถึงความอาลัย ความเศร้าโศกเสียใจ แต่ทั้งนี้ ดอกลิลลี่สีขาว นั้นมีความหมายเป็นมงคลเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในพิธีแต่งงาน ช่อดอกไม้ลิลลี่ของเจ้าสาว นั้นสื่อถึงชีวิตคู่ที่มีแต่ความจริงใจ ความเชื่อใจ ไม่คิดลวงหลอกกัน หรือหากนำไปให้คนรัก จะเป็นการบอกว่า “ฉันรักเธอด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน”
- ดอกลิลลี่สีชมพู ตัวแทนของ “ความรัก, เสน่หา, ความเข้าอกเข้าใจ, ความเป็นผู้หญิง”
ด้วยสีชมพูอันอ่อนหวาน อ่อนโยน ทำให้ ดอกลิลลี่สีชมพู นั้นเป็นตัวแทนของหญิงสาววัยแรกแย้ม ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหล เหมาะมากสำหรับนำไปมอบให้คนรักในวันครบรอบหรือวันสำคัญต่าง ๆ เพื่อเป็นการบอกว่า “คุณยังคงสวยงามเหมือนวันแรกที่ได้เจอ และรักของเราจะไม่เปลี่ยนไป” ทั้งนี้ ดอกลิลลี่สีชมพู สามารถสื่อความรู้สึกได้หลากหลายมากกว่าความรัก หากมอบให้คนในครอบครัว เพื่อนสนิท จะสื่อความหมายถึงความเข้าอกเข้าใจ เติมความสวยงาม และความอบอุ่นให้กับคนรอบข้าง
- ดอกลิลลี่สีเหลือง ตัวแทนของ “ความสนุกสนาน, ความรื่นเริงบันเทิงใจ, มิตรภาพ”
เวลามองเฉดสีเหลืองหลาย ๆ คนคงนึกถึงความสดชื่น สดใส มีชีวิตชีวา เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าเวลาเรายื่นช่อดอกลิลลี่สีเหลืองให้ใคร เขาคนนั้นต้องยิ้มแป้นแล้วเต็มใจรับไว้อย่างแน่นอน เพราะความหมายของมันไม่ได้สื่อถึงความรัก หรือความสัมพันธ์แบบชู้สาว แต่เป็นการบอกว่า “ฉันดีใจที่มีคุณในชีวิต ฉันอยากให้คุณยิ้ม ฉันอยากให้คุณมีความสุข เพราะฉันรักคุณมากจริง ๆ” นับเป็นตัวแทนของมิตรภาพที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน หรือญาติพี่น้อง
- ดอกลิลลี่สีส้ม ตัวแทนของ “ความอบอุ่น, ความห่วงใย, ความมั่นใจ, ชื่อเสียงเกียรติยศ”
สีโทนร้อนแต่แฝงด้วยเฉดสีสดใสอยู่ลึก ๆ ทำให้ดอกลิลลี่สีส้มสื่อถึง ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความมั่นใจ ความอบอุ่น และความแข็งแกร่ง ทั้งยังเป็นสีที่โดดเด่นยิ่งกว่าใครในทุ่งดอกลิลลี่เลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นเวลาเราให้ดอกลิลลี่สีส้มกับใคร นั่นเป็นการบอกว่า “ฉันชื่นชมคุณ ฉันยินดีกับความสำเร็จของคุณ” จึงเหมาะมากสำหรับให้เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หัวหน้า รวมถึงคนรู้จักที่เพิ่งจบการศึกษา
แต่อย่าได้เผลอมอบให้คนรู้จักที่มีเชื้อสายญี่ปุ่นทีเดียวเชียว เพราะในประเทศญี่ปุ่นนั้น ดอกลิลลี่สีส้ม หมายถึงความเกลียดชัง การแก้แค้น สื่อว่าต้องการสาปแช่งให้คนผู้นั้นพบเจอแต่สิ่งไม่ดี ชีวิตวอดวายนั่นเอง
- ดอกลิลลี่สีม่วง ตัวแทนของ “ความเคารพ, ความสำเร็จ, ความพิเศษไม่เหมือนใคร”
เรียกว่าสีม่วงเป็นสีที่สื่อถึงความจงรักภักดี ส่วนดอกลิลลี่สีม่วงนั้นเป็นชนิดที่พบเห็นได้ไม่มาก ไม่มีดาษดื่นเหมือนสีอื่น ๆ เวลามอบให้ใครจึงสื่อความหมายได้ว่า “คุณคือคนพิเศษของฉัน ฉันอยากหยิบยื่นแต่สิ่งดี ๆ ให้กับคุณ” จัดเป็นดอกไม้ที่โรแมนติก เหมาะสำหรับให้คู่รักในวันสำคัญมากจริง ๆ
รู้ประวัติความเป็นมาแถมด้วยความหมายแบบจัดเต็มขนาดนี้แล้ว อย่าลืมมองหาดอกลิลลี่สักช่อไปมอบให้คนพิเศษในวันสำคัญกันนะ รับรองเลยงานนี้ต้องมีคนยิ้มไม่หุบไปหลายวันแน่ ๆ เลย ^^
ข้อมูลจาก : flowermeaning.com, blossomflower.com, freshflowers.com.au
เรื่องน่ารู้ของดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่ มีชื่อสามัญว่า “Lily” เป็นไม้ดอกในตระกูล “Liliaceae” มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชีย แถบประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่น เป็นสายพันธุ์พืชประเภทหัว ที่มีกลิ่นหอม ดอกอูมใหญ่ มีหัวสะสมและหล่อเลี้ยงอาหารอยู่ใต้ดิน สามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยการใช้หัวปักชำ โดยลิลลี่หนึ่งลำต้นสามารถแบกรับตัวดอกได้ 4 หรือ 8 ดอก เมื่อบานแล้วจะมีอายุ 1-2 สัปดาห์ก่อนร่วงโรยไป มีความสูงโตเต็มที่ประมาณ 0.6-1.8 เมตร
สมัยโบราณมีคนนำดอกลิลลี่มาทำเป็นอาหารและยารักษาโรค เนื่องจากมีแป้งและสารอาหารอยู่มาก ซึ่งแม้ว่าดอกลิลลี่ส่วนใหญ่ รวมถึงดอกลิลลี่ป่าจะไม่มีพิษภัยต่อมนุษย์ แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่าง แมว หากเผลอกินเข้าไปอาจทำให้อาเจียน ท้องเสีย หรือเป็นพิษขนาดทำให้ตายได้เลยทีเดียว
ตามความเชื่อในปกรณัมกรีกโบราณ ดอกลิลลี่ เกิดจากน้ำนมของเทพีเฮร่า ภรรยาของราชาแห่งเทพเจ้าซุส แต่เพราะมีหน้าตาขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องมากเกินไป วีนัส ผู้เป็นเทพีแห่งความงาม จึงเกิดกลัวขึ้นมาว่า ดอกไม้พันธุ์จะสวยสง่าเกินหน้าเกินตาของตัวเอง เลยสาปแช่งให้มีจุดด่างพร้อยขึ้นที่ใจกลางดอก นั่นก็คือส่วนเกสรดอกไม้ตัวเมีย ที่ยื่นยาวผิดจากดอกไม้ทั่วไป แถมด้วยจุดตะปุ่มตะป่ำเล็ก ๆ ที่กระจายไปตามกลีบดอก นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมดอกลิลลี่บางสายพันธุ์ถึงได้มีลายจุดเล็ก ๆ กระจายตามกลีบดอก
ในส่วนของประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่า สายพันธุ์ดอกลิลลี่สีขาวที่แท้จริงเกิดขึ้นครั้งแรกบนเกาะครีต ประเทศกรีซ ตั้งแต่สมัย 1580 ปีก่อนคริสตกาล โดยชาวบ้านชาวคริสต์ใช้เป็นสัญลักษณ์ของการเจริญพันธุ์ การเติบโตงอกงาม การเกิดใหม่ ก่อนนักสำรวจชาวยุโรปจะมาเจอเข้า แล้วนำไปใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคภัยในยุควิกตอเรีย หลังจากนั้นหนึ่งในนักสำรวจ ออกัสติน เฮนรี่ (Augustine Henry) เปลี่ยนเป้าหมายจากการตามล่า เป็นออกตามหาสถานที่เพาะพันธุ์ดอกลิลลี่ขึ้นมาเอง เกิดเป็นลิลลี่สีส้มสายพันธุ์ Lilium henryii หรือ Henry’s lily ต่อมานักสำรวจ อี.เฮช. วิลสัน (E.H. Wilson) ได้ค้นพบลิลลี่สีขาวสายพันธุ์ใหม่ที่ประเทศจีนเรียกว่า Lilium Real
นอกจากนี้ การที่ดอกลิลลี่ Easter Lily ซึ่งมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมในประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นสายพันธุ์ที่แพร่หลายไปทั่วโลก เกิดมาจากการที่ หลุยส์ ฮอตัน (Louis Houghton) ทหารชาวอเมริกัน เก็บหัวของดอกลิลลี่ จากสนามรบกลับไปแบ่งปันให้เพื่อนบ้านของเขา เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง ด้วยความที่ดอกลิลลี่นั้นโตไว โตได้เองไม่ต้องดูแลมาก รวมถึงมีหน้าตาสวยงาม มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ก็คงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมมันจึงกลายเป็นดอกไม้ที่ขยายพันธุ์กระจายไปทั่วโลก และติดอันดับดอกไม้ยอดนิยมอย่างทุกวันนี้
ความหมายของดอกลิลลี่แต่ละชนิด
- ลิลลี่ลูกผสมเอเชีย (Asiatic Lily) เป็นสัญลักษณ์ของ “ชีวิตคู่, ความบริสุทธิ์ใจ”
ในความเชื่อของชาวตะวันตก มักใช้ลิลลี่สายพันธุ์ลูกผสมเอเชียสำหรับจัดตกแต่งในงานวิวาห์ งานเฉลิมฉลองวันแรกเกิด วันขึ้นบ้านใหม่ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตคู่ ความบริสุทธิ์ผ่องใส สื่อความหมายถึงคำอวยพรให้การเริ่มต้นใหม่ ทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัว และการเงินเป็นไปได้ด้วยดี
ดอกไม้อันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของพระแม่มารี แน่นอนว่าต้องสื่อถึงความรักบริสุทธิ์ และความรักไม่มีเงื่อนไขที่แท้จริง จึงนิยมทำเป็นช่อดอกไม้มอบให้คู่บ่าว-สาวในวันแต่งงาน เหมือนเป็นของขวัญแทนใจให้ทั้งคู่ได้พบเจอกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความเชื่อใจของกันและกัน
ด้วยรูปร่างหน้าตา ลวดลาย และสีสันที่ฉูดฉาดเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ดอกลิลลี่ลายเสือ กลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นใจ ความมั่งคั่ง พร้อมบุก พร้อมลุยทุกอุปสรรคที่ขวางหน้า นิยมมอบให้ผู้ที่กำลังจะเริ่มงานใหม่ หรือผู้ที่เราต้องการอวยพรให้เขาผ่านพ้นทุกอุปสรรคไปได้ด้วยดี
สำหรับดอกคาลล่า ลิลลี่ จะสื่อความหมายแตกต่างออกไป ตามวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ยุคกรีกโบราณ คาลล่า ลิลลี่ เป็นสัญลักษณ์ของ ความสวยความงาม, ในศาสนาคริสต์ เป็นสัญลักษณ์ของ ความศรัทธาและความไร้เดียงสา, ในวัฒนธรรมฝั่งตะวันตก เป็นสัญลักษณ์ของ ความแข็งแกร่ง เนื่องจาก คาลล่า ลิลลี่ สามารถงอกดอกใหม่ขึ้นมาได้เอง แม้จะตัดไปเลี้ยงในแจกันก็ตาม
- ดอกลิลลี่สีขาว ตัวแทนของ “ความบริสุทธิ์ใจ, ความไร้เดียงสา, ความอ่อนน้อมถ่อมตน”
ดอกลิลลี่สีขาวเป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับความบริสุทธิ์ สันติสุข และสรวงสวรรค์ ชาวตะวันตกจึงนิยมนำมาใช้ประดับตามงานศพ หรือวางหน้าหลุมศพเพื่อแสดงถึงความอาลัย ความเศร้าโศกเสียใจ แต่ทั้งนี้ ดอกลิลลี่สีขาว นั้นมีความหมายเป็นมงคลเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในพิธีแต่งงาน ช่อดอกไม้ลิลลี่ของเจ้าสาว นั้นสื่อถึงชีวิตคู่ที่มีแต่ความจริงใจ ความเชื่อใจ ไม่คิดลวงหลอกกัน หรือหากนำไปให้คนรัก จะเป็นการบอกว่า “ฉันรักเธอด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน”
- ดอกลิลลี่สีชมพู ตัวแทนของ “ความรัก, เสน่หา, ความเข้าอกเข้าใจ, ความเป็นผู้หญิง”
ด้วยสีชมพูอันอ่อนหวาน อ่อนโยน ทำให้ ดอกลิลลี่สีชมพู นั้นเป็นตัวแทนของหญิงสาววัยแรกแย้ม ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหล เหมาะมากสำหรับนำไปมอบให้คนรักในวันครบรอบหรือวันสำคัญต่าง ๆ เพื่อเป็นการบอกว่า “คุณยังคงสวยงามเหมือนวันแรกที่ได้เจอ และรักของเราจะไม่เปลี่ยนไป” ทั้งนี้ ดอกลิลลี่สีชมพู สามารถสื่อความรู้สึกได้หลากหลายมากกว่าความรัก หากมอบให้คนในครอบครัว เพื่อนสนิท จะสื่อความหมายถึงความเข้าอกเข้าใจ เติมความสวยงาม และความอบอุ่นให้กับคนรอบข้าง
- ดอกลิลลี่สีเหลือง ตัวแทนของ “ความสนุกสนาน, ความรื่นเริงบันเทิงใจ, มิตรภาพ”
เวลามองเฉดสีเหลืองหลาย ๆ คนคงนึกถึงความสดชื่น สดใส มีชีวิตชีวา เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าเวลาเรายื่นช่อดอกลิลลี่สีเหลืองให้ใคร เขาคนนั้นต้องยิ้มแป้นแล้วเต็มใจรับไว้อย่างแน่นอน เพราะความหมายของมันไม่ได้สื่อถึงความรัก หรือความสัมพันธ์แบบชู้สาว แต่เป็นการบอกว่า “ฉันดีใจที่มีคุณในชีวิต ฉันอยากให้คุณยิ้ม ฉันอยากให้คุณมีความสุข เพราะฉันรักคุณมากจริง ๆ” นับเป็นตัวแทนของมิตรภาพที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน หรือญาติพี่น้อง
สีโทนร้อนแต่แฝงด้วยเฉดสีสดใสอยู่ลึก ๆ ทำให้ดอกลิลลี่สีส้มสื่อถึง ความมุ่งมั่นตั้งใจ ความมั่นใจ ความอบอุ่น และความแข็งแกร่ง ทั้งยังเป็นสีที่โดดเด่นยิ่งกว่าใครในทุ่งดอกลิลลี่เลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นเวลาเราให้ดอกลิลลี่สีส้มกับใคร นั่นเป็นการบอกว่า “ฉันชื่นชมคุณ ฉันยินดีกับความสำเร็จของคุณ” จึงเหมาะมากสำหรับให้เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หัวหน้า รวมถึงคนรู้จักที่เพิ่งจบการศึกษา
แต่อย่าได้เผลอมอบให้คนรู้จักที่มีเชื้อสายญี่ปุ่นทีเดียวเชียว เพราะในประเทศญี่ปุ่นนั้น ดอกลิลลี่สีส้ม หมายถึงความเกลียดชัง การแก้แค้น สื่อว่าต้องการสาปแช่งให้คนผู้นั้นพบเจอแต่สิ่งไม่ดี ชีวิตวอดวายนั่นเอง
- ดอกลิลลี่สีม่วง ตัวแทนของ “ความเคารพ, ความสำเร็จ, ความพิเศษไม่เหมือนใคร”
เรียกว่าสีม่วงเป็นสีที่สื่อถึงความจงรักภักดี ส่วนดอกลิลลี่สีม่วงนั้นเป็นชนิดที่พบเห็นได้ไม่มาก ไม่มีดาษดื่นเหมือนสีอื่น ๆ เวลามอบให้ใครจึงสื่อความหมายได้ว่า “คุณคือคนพิเศษของฉัน ฉันอยากหยิบยื่นแต่สิ่งดี ๆ ให้กับคุณ” จัดเป็นดอกไม้ที่โรแมนติก เหมาะสำหรับให้คู่รักในวันสำคัญมากจริง ๆ
ข้อมูลจาก : flowermeaning.com, blossomflower.com, freshflowers.com.au