พญาครุฑ ประวัติเจ้าแห่งเวหา อานุภาพเสริมบารมี พร้อมวิธีบูชา

          พญาครุฑ ประวัติเทพศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน แต่บางคนอาจไม่ทราบว่า พญาครุฑ พุทธคุณ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง มารู้จักตำนานเจ้าแห่งท้องฟ้า พร้อมวิธีการบูชาพญาครุฑให้ถูกต้องกัน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์

          ในบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยให้ความเคารพมาช้านาน “พญาครุฑ” ถือเป็นหนึ่งในเทพที่เราคุ้ยเคยกันดี แถมยังมีติดตัวแทบทุกคน ถ้าไม่เชื่อก็ลองเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบธนบัตรขึ้นมาดูได้ ด้วยความที่พญาครุฑเป็นเจ้าแห่งเวหาและทรงอิทธิฤทธิ์ตามคติของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู นอกจากนี้ พญาครุฑยังเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ทำให้มีผู้คนไม่น้อยเลื่อมใสบูชาพญาครุฑ เพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมอำนาจบารมีและบันดาลความรุ่งเรืองให้ชีวิต แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า พญาครุฑ ประวัตินั้นมีที่มาอย่างไร รวมถึง พญาครุฑ บูชาอย่างไรบ้าง ตามกระปุกดอทคอมไปหาคำตอบกันเลย

พญาครุฑ เป็นพาหนะของพระวิษณุ หนึ่งในเทพเจ้าสูงสุดของศาสนาฮินดู ชาวฮินดูเชื่อว่า พญาครุฑเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ และสามารถช่วยปกป้องคุ้มครองผู้คนจากอันตรายได้ พระองค์ยังเป็นหนึ่งในเทพ 78 องค์ของไพ่เทวะมันตรา พยากรณ์ ซึ่งเป็นไพ่เทพพยากรณ์ 78 ใบ ที่ถือกำเนิดมาจากความศรัทธาที่มีต่อเทพเชื้อสายต่าง ๆ ของผู้คนทั่วโลก ไพ่เทวะมันตรา พยากรณ์จะช่วยเปิดโลกพลังพิเศษแห่งดวงตาที่สาม ให้รับรู้โดยสัญชาตญาณ และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อปลดล็อกความรู้สึกภายในเพื่อเปิดรับสิ่งดี ๆสำหรับผู้ที่ได้รับการทำนาย

พญาครุฑ หรือ ครุฑ

พญาครุฑ หมายถึงอะไร

          พญาครุฑ เป็นสัตว์ในนิยายของศาสนาฮินดู พุทธ และเชน ปรากฏในวรรณคดีสำคัญหลายเรื่อง ตามคติไทยโบราณเชื่อว่า ครุฑเป็นพญาแห่งนกทั้งมวล และเป็นพาหนะของพระวิษณุ มีลักษณะครึ่งคนครึ่งอินทรี อาศัยอยู่ที่วิมานฉิมพลี ทรงอิทธิฤทธิ์ เป็นอมตะ และมีพละกำลังมหาศาล ชนิดที่ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ก็เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งหมายถึง ขนวิเศษ

พญาครุฑ ประวัติและต้นกำเนิด

          จากคัมภีร์ปุราณะของฮินดูเล่าถึงประวัติพญาครุฑไว้ว่า ครั้งหนึ่งพระทักษะปชาบดีได้ยกธิดาทั้ง 13 องค์ ให้พระกัศยปเทพบิดร ซึ่งธิดา 2 องค์ คือ นางวินตา และนางกัทรุ ต่างก็ชิงดีชิงเด่นเพื่อเป็นที่โปรดปรานของพระสวามี โดยนางกัทรุขอพรจากพระกัศยปให้มีบุตรเป็นนาค 1,000 ตัว ส่วนนางวินตาขอพรให้มีบุตรเพียง 2 คน แต่ให้มีฤทธิ์อำนาจมากกว่าบุตรของนางกัทรุ
 

          ต่อมานางกัทรุคลอดลูกออกมาเป็นไข่ 1,000 ฟอง เมื่อเวลาผ่านไป 500 ปี ก็บังเกิดเป็นนาค 1,000 ตัว ส่วนนางวินตาคลอดลูกเป็นไข่ 2 ฟอง แต่ยังไม่ฟักเป็นตัว นางวินตารอไม่ไหวจึงกะเทาะไข่ใบแรกดูปรากฏเป็นเทพเพียงครึ่งองค์ ไม่มีท่อนล่าง เนื่องจากเกิดก่อนกำหนด นามว่า อรุณเทพบุตร
 

          พระอรุณโกรธมารดาที่ทำให้ตนพิการ จึงสาปให้ต้องไปเป็นทาสนางกัทรุเป็นเวลา 500 ปี แต่ก็มีทางแก้ไว้ว่า หากนางวินตาสามารถทนรอจนไข่อีกฟองหนึ่งฟัก บุตรในไข่ใบที่สองจะช่วยนางให้พ้นคำสาปได้ หลังจากนั้นอีก 500 ปี ไข่ใบที่สองก็แตกออกมาเป็นบุตรผู้มีกำลังมหาศาล มีรัศมีทองสว่างไสวกว่าพระอาทิตย์นับร้อยเท่า ศีรษะมีจะงอยปาก และปีกเหมือนนกอินทรี แต่ร่างกายและแขนขาเหมือนมนุษย์มีนามว่า "เวนไตย" เมื่อพญาเวนไตยเติบโตขึ้น ทราบว่ามารดาต้องเป็นทาสของกัทรุ จึงขอไถ่ตัวนางวินตาจากเหล่านาค พวกนาคก็ยินยอม โดยมีข้อแม้ว่าพญาเวนไตยต้องไปเอาน้ำอมฤตที่พระอินทร์เก็บรักษาไว้บนสวรรค์มาให้
 

          พญาเวนไตยตกลง โดยก่อนออกเดินทางได้ขอพรจากมารดา ซึ่งนางวินตาบอกว่า ระหว่างทางหากหิวให้กินเฉพาะคนป่าเถื่อน และห้ามทำอันตรายพวกพราหมณ์โดยเด็ดขาด พญาเวนไตยก็รับคำ ระหว่างทางพญาเวนไตยบินไปเกาะกิ่งไทร แต่กิ่งนั้นทานน้ำหนักไม่ไหวหักลงมา พญาเวนไตยแลเห็นว่าบนกิ่งไทรมีพวกฤาษีแคระอยู่ จึงช่วยชีวิตและพาไปเขาเหมกูฏ พวกฤาษีเห็นว่าพญานกตนนี้มีจิตใจงดงาม จึงให้ชื่อว่า "ครุฑ" แปลว่า ผู้รับภาระอันหนัก ทั้งยังให้พรว่า ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็สำเร็จตามประสงค์ และมีพละกำลังมหาศาล ไม่มีผู้ใดต้านทานได้
 

          จากนั้นพญาครุฑก็บินไปยังเทวโลก ฝ่าฟันอุปสรรคนานาเพื่อนำน้ำอมฤตออกมา จนพระวิษณุเสด็จมาพบเข้าจึงสู้รบกัน แต่ต่างไม่สามารถเอาชนะกันได้ พระวิษณุทรงให้พรตามที่พญาครุฑต้องการ พญาครุฑขอพร 2 ประการ คือ ขอเป็นพาหนะให้พระวิษณุในเวลาเสด็จไปยังที่ต่าง ๆ แต่ในยามปกติขออยู่เหนือพระวิษณุ และขอให้มีความเป็นอมตะแม้จะไม่ได้ดื่มน้ำอมฤตก็ตาม พระวิษณุก็ทรงให้พรตามที่ขอ และยังทรงอนุญาตให้สามารถจับนาคกินเป็นอาหารได้ ยกเว้น "เศษะนาค" และ "นาควาสุกรี" ซึ่งเป็นผู้เคารพในพระองค์ หลังจากได้น้ำอมฤตแล้ว พญาครุฑจึงไถ่ตัวมารดาได้สำเร็จ และกลายเป็นศัตรูคู่แค้นกับพญานาคตั้งแต่นั้นมา

สิ่งศักดิ์สิทธิ์

พญาครุฑ พุทธคุณช่วยเรื่องอะไรบ้าง

          สำหรับผู้ที่บูชาพญาครุฑอย่างสม่ำเสมอจะเกิดผลดี ได้แก่
 

  • มีอำนาจวาสนา นําความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตและหน้าที่การงาน
  • มีเมตตามหานิยม ผู้คนเคารพรัก
  • ทํามาค้าขายดี มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
  • ลบล้างอาถรรพ์และคุณไสยได้ทั้งปวง ภูติผีปีศาจเกรงกลัว สัตว์ร้ายงูเงี้ยวเขี้ยวขอไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะเกรงกลัวในอำนาจบารมีของพญาครุฑ
  • ปกป้องคุ้มครองภัยอันตราย ให้อยู่ยงคงกระพัน

พญาครุฑ บูชาอย่างไรให้ถูกต้อง

          เมื่อได้รับองค์พญาครุฑมาบูชาใหม่ ๆ ให้อัญเชิญเข้าอาคารบ้านเรือนภายในเวลา 12.00 น. เริ่มด้วยการจุดธูป 3 ดอก บอกกล่าวพระประธานในบ้าน และธูป 5 ดอก บอกเจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขออนุญาตนำองค์พญาครุฑมาประทับ ณ สถานที่แห่งนั้น

การจัดตั้งองค์พญาครุฑ

          สามารถวางรวมกับหิ้งพระได้ โดยวางไว้ชั้นล่างสุด แต่ถ้าหากเดิมบูชาพญานาคอยู่แล้ว ให้วางไว้คนละฝั่งของหิ้งพระ หรือจะแยกหิ้งไปเลยก็ได้ (แต่ถ้าบูชาพระพิฆเนศอยู่ สามารถวางบูชาร่วมกันได้) หลังจากนั้นจึงจัดเครื่องบวงสรวง ดังนี้
 

  • ธูป 9 ดอก
  • เทียน 1 คู่
  • พวงมาลัย 1 พวง
  • ผลไม้ 1 หรือ 3 อย่าง
  • ถั่ว (ใช้งาแทนได้) 1 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วย

          จากนั้นก็ให้ทำการสวดอัญเชิญสรรเสริญองค์พญาครุฑด้วยบทนี้
 

ตั้งนะโม 3 จบ


“คะรุปิจะ กิติมันตัง มะ อะ อุ โอมพญาครุฑ รุจ รุจ แล้วรวย นะ ได้เงิน นะ ได้ทอง นะ เจริญ นะ มั่นคง นะ ได้ทรัพย์
นะ เมตตา อิติปิโสภะคะวา พระพุทธเจ้าสั่งมา พญาครุฑล้างอาถรรพ์ อิติคงเนื้อ อิติคงหนัง พญาครุฑยันติ อภิปูยาจามิ พญาครุฑจะผุด มนุษย์จะเกิด พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด
องค์พระพุทธเจ้าย่างบาท นะปัจจะโยโหนตุ”

 

          หลังจากนั้นให้จัดของถวายตามความเหมาะสม จะเป็นผลไม้ 1 อย่าง หรือ 1 ลูก ก็ได้ หรือจะมีขนมนมเนยแบบเดียวกับที่บูชาพระพิฆเนศก็ได้ แต่ขอให้เปลี่ยนน้ำถวายท่านทุก ๆ วัน ในด้านการปฏิบัติตน ให้รักษาศีล 5 ทำบุญถวายสังฆทานอย่างน้อยเดือนละครั้ง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์

บทสวดบูชาพญาครุฑ

ตั้งนะโม 3 จบ

คะรุปิจะ กิติมันตัง มะอะอุ โอมพญาครุฑ รุจ รุจ แล้วรวย นะ ได้เงิน นะ ได้ทอง นะ ได้ทรัพย์ นะ เมตตา นะ ล้างอาถรรพ์
นะ เจริญ นะ มั่นคง อธิฐามิ

(บทสวดหลัก วัดโพธิทอง สุขสวัสดิ์ 26)

----------------------------------------------

อาระหัง ครุฑโธ อาคะโต อัสสะมินา

คะราเช อัปเปหิ เหตุธา ครุฑธา

พุทธังอิติ ธัมมังอิติ สังฆังอิติ

(หัวใจพญาครุฑ หลวงปู่เส็ง จนฺทรงฺสี วัดบางนา จ.ปทุมธานี)

----------------------------------------------

จะ อะ ภะ คะ กะ ยะ พะ ตัง วะโมทุ ทันตานัง พญาจิตรสุบรรณ คะรุทานัง
นะระปูชิโต โสระโร ปัจจะจายะ

ทิมหิ มหาลาภัง ภะวันตุเมฯ

(พระคาถาบูชาพญาครุฑจิตรสุบรรณ พระอาจารย์โต ฐิตวิริโย วัดพระบาทปางแฟน เชียงใหม่)
 

หมายเหตุ : จะสวดบทใดบทหนึ่ง หรือจะสวดทั้งหมดก็ได้

พญาครุฑ วัดไหนดี

          หากจะกล่าวถึงวัตถุมงคลพญาครุฑในประเทศไทยนั้น ที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือ องค์พญาครุฑ หลวงพ่อวราห์ วัดโพธิทอง ที่ผ่านการปลุกเสกและมีอายุมากกว่าร้อยปี โดยหลวงพ่อพุทธโพธิทองเป็นพระประธาน ตำนานองค์พญาครุฑ หลวงพ่อวราห์ หากใครได้บูชาด้วยจิตใจที่ดี ก็จะได้รับพรอันเปรียบเสมือนแก้วสารพัดนึกของพญาครุฑ
 

          การนับถือพญาครุฑ ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่หากใครอยากจะเริ่มต้นบูชา แนะนำว่าควรตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม คิดดี ทำดี และที่สำคัญต้องมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ จึงจะเห็นผลชัด เนื่องจากองค์พญาครุฑเป็นเทพผู้มีความกตัญญูต่อมารดาอย่างสูงสุดนั่นเอง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พญาครุฑ ประวัติเจ้าแห่งเวหา อานุภาพเสริมบารมี พร้อมวิธีบูชา อัปเดตล่าสุด 31 กรกฎาคม 2566 เวลา 13:54:58 49,348 อ่าน
TOP
x close