เทพฮินดูนับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยนับถือมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะพระพิฆเนศ เทพแห่งความสำเร็จ โดยหนึ่งในสถานที่ที่ผู้คนนิยมไปกราบไหว้บูชาก็คือหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยในวันที่ 7 กันยายน 2567 เป็นวันคเณศจตุรถี วันสำคัญแห่งการขอพร ขอความสำเร็จ สมปรารถนา ซึ่งหากใครไม่ทราบขั้นตอนการไหว้ หรือไม่สามารถไปทำพิธีได้ด้วยตัวเอง ทาง Horoworld และ Thai Merit ก็ได้จัดกิจกรรมในรูปแบบ “ร่วมพิธี” และ “ฝากไหว้” ด้วย โดยผู้ที่เข้าร่วมพิธีจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งรับบัตรดูดวงแอปฯ Horoworld มูลค่า 100 บาท และวอลเปเปอร์มงคล “พระพิฆเนศ @เซ็นทรัลเวิลด์”, ของไหว้ในพิธีเพื่อไปบูชาต่อ และพิเศษสุด ๆ สำหรับลูกค้าจาก Kapook.com จะได้รับการ์ดบูชาพระแม่ลักษมีด้วย
รูปแบบกิจกรรม
- เข้าร่วมพิธี 1,299.-
- ฝากไหว้ 999.- (ทีมงานเป็นตัวแทนไหว้ พร้อมส่งหลักฐาน)
บูชาพระพิฆเนศครั้งใหญ่ ณ เซ็นทรัลเวิลด์
- พิธีบวงสรวงพระพิฆเนศ โดยโหรพราหมณ์ “วสุ แสงธรรมฟ้า” โดยก่อนเริ่มประกอบพีธีจะมีการทำพิธีล้างอาถรรพ์ เพิ่มชำระล้างพลังให้เกิดความบริสุทธิ์สูงสุด
- ประกอบพิธีสรงสนานมูรติ หรือการสรงน้ำพระพิฆเนศ โดยกูรูด้านศาสตร์ฮินดู “หมอแก้ม โคโค่” พร้อมการแสดง “ศรีคเณศวรบูชา” โดย “รัตธิบดี” เพื่อถวายความสำราญเบิกบานแด่พระองค์ตามความเชื่อฮินดู
- ผู้เข้าร่วมพิธีสามารถอัญเชิญพระพิฆเนศของท่านมาร่วมพิธีได้ เพื่อเป็นการปรับและเพิ่มพลังงานความมงคลมาสู่เทวรูปพระพิฆเนศที่ท่านศรัทธาและบูชาเป็นประจำ
- ชุดบวงสรวงและชุดไหว้เต็มรูปแบบ ถูกต้องตามหลักบูชา
- LIVE ชุดถวาย พร้อมเอ่ยนามทุกท่านระหว่างพิธี สำหรับชุดฝากไหว้ ทีมงาน Thai Merit จะบริการไหว้จริง เสมือนตัวแทนของท่านในทุกขั้นตอน อาทิ การไหว้ การสรงสนาน และกระซิบขอพรกับหนูมุสิกะ
- รับบัตรดูดวงแอปฯ Horoworld มูลค่า 100 บาท และวอลเปเปอร์มงคล “พระพิฆเนศ @เซ็นทรัลเวิลด์”
- ผู้ฝากไหว้จะได้รับของมงคลที่ผ่านการทำพิธีในวันดังกล่าวจัดส่งถึงบ้าน ประกอบไปด้วย หนูมุสิกะ ผ้าคล้องบ่า เทียนรูปชบาแดง และขนมโมทกะลาดู
- สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าจาก Kapook.com โดยเฉพาะ ! เพียงแจ้งว่าติดตามมาจาก Kapook.com จะได้รับการ์ดบูชาพระแม่ลักษมีใบพิเศษ
เกี่ยวกับวันคเณศจตุรถี
“คเณศจตุรถี” เป็นวันที่ดีในการกราบไหว้บูชาองค์พระพิฆเนศ เพื่อให้เกิดความสำเร็จในด้านต่าง ๆ เชื่อกันว่า พระพิฆเนศจะเสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อประทานพรแก่ผู้ศรัทธาในพระองค์ท่าน ปีนี้ตรงกับวันที่ 7 กันยายน 2567 จึงเป็นวันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการบูชาองค์พระพิฆเนศ สามารถขอพรได้ทุกเรื่อง ความสำเร็จในทุกด้าน การเริ่มต้นใหม่ การเงิน การงาน ความรัก และสุขภาพ โดยในช่วงดังกล่าวเหมาะแก่การจัดพิธีกรรมบูชา และการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วประเทศอินเดีย ทั่วโลก รวมถึงที่ประเทศไทยด้วย
เกี่ยวกับพระพิฆเนศ
"ผู้ใดต้องการความสำเร็จ...ให้บูชาพระพิฆเนศ ผู้ใดต้องการพ้นจากความขัดข้องทั้งปวง ให้บูชาพระพิฆเนศ"
พระพิฆเนศ เป็นเทพที่รู้จักคุ้นเคยและเป็นที่เคารพบูชามากที่สุดองค์หนึ่งในชีวิตของชาวฮินดูและชาวไทย ทรงเป็นเทพที่มีเทวานุภาพหลากหลาย และถือว่าเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่มีเทวานุภาพมากที่สุด คนไทยได้ยกให้ “องค์พระพิฆเนศ” เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปะทั้งมวล ซึ่งผู้ที่ทำงานศิลปะ ศิลปินสาขาต่าง ๆ ให้การเคารพบูชา เป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จในทุกสรรพสิ่ง และการเริ่มต้นใหม่ทั้งปวง ผู้บูชามักจะไหว้บูชาเพื่อขอความสำเร็จในทุกด้านของชีวิต เงินทอง ความมั่งคั่ง ตลอดจนความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ
พระพิฆเนศเป็นโอรสของพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี มีเศียรเป็นช้าง มีงวงโค้ง หูใหญ่ และมีร่างกายเป็นมนุษย์ รูปกายที่อ้วนพี คือสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์มั่งคั่ง เศียรที่เป็นช้าง คือสัญลักษณ์ของผู้มีปัญญา ตาที่เล็ก คือความสามารถในการแยกแยะถูกผิด หูที่ใหญ่ คือการพร้อมรับฟังสิ่งที่ร้องขอจากผู้บูชา และจมูกที่ใหญ่ คือสัมผัสพิจารณาที่ดีเลิศ พระพิฆเนศมีพาหนะคือ หนู (มุสิกะ) แสดงถึงความไม่ถือองค์ พร้อมที่จะเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตที่เล็กและเป็นที่รังเกียจของมนุษย์ส่วนมาก
ทางศาสนาพราหมณ์ได้สถาปนาให้พระพิฆเนศเป็นเทพพระองค์แรกที่ต้องบูชาก่อนเริ่มพิธีใด ๆ เพื่อเป็นการคารวะบรมครูผู้ประสาทปัญญาและความสำเร็จ สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป กิจการทุกอย่างจึงสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี ดังนั้น จึงควรสักการะพระพิฆเนศก่อนไปสักการะเทพฮินดูองค์อื่น ๆ
เหตุใดพระพิฆเนศจึงมีเศียรเป็นช้าง
กำเนิดของพระพิฆเนศนั้นเล่าขานกันหลายที่มา แต่ที่เคยได้ยินกันบ่อย ๆ ก็คงเป็นตำนานที่ว่า พระแม่อุมาเทวีได้นำเหงื่อไคลของพระองค์เองมาปั้นเป็นบุตร คือ พระพิฆเนศ และสั่งให้ไปยืนเฝ้าประตูไม่ให้ใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต วันหนึ่งพระศิวะเสด็จมาหาพระแม่อุมาเทวี แต่พระพิฆเนศไม่ยอมให้เข้า พระศิวะจึงทรงพิโรธและตัดเศียรพระพิฆเนศ เมื่อพระแม่อุมาเทวีทราบเรื่องก็เสียพระทัยมาก ครั้นพระศิวะจะชุบชีวิตก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากหาศีรษะไม่เจอ และหากดวงอาทิตย์ขึ้นก็จะไม่สามารถชุบชีวิตของพระพิฆเนศได้ พระศิวะจึงสั่งให้เทวดาเดินทางไปทิศเหนือ และเอาศีรษะของสิ่งมีชีวิตสิ่งแรกที่พบมาต่อกับร่างของโอรส และสิ่งมีชีวิตแรกที่เทวดาพบนั้นก็คือช้าง พระพิฆเนศจึงมีเศียรเป็นช้างอย่างที่เราเห็นกัน