ปล่อยปลาตามวันเกิด ความหมายและเคล็ดลับ ปล่อยปลาอะไรดีให้เสริมดวง

          ปล่อยปลาตามวันเกิด ถ้าอยากทำบุญปล่อยปลาเสริมดวง เกิดวันไหน ควรปล่อยปลาอะไรดี จำนวนเท่าไร วันนี้เรามีวิธีปล่อยปลาอย่างถูกต้อง พร้อมความหมายของแต่ละชนิดมาฝาก รับรองอิ่มบุญแน่นอน

          ในวันเกิดหรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ชาวไทยสายพุทธก็มักจะเดินทางไปทำบุญที่วัดกัน นอกจากการตักบาตร ไหว้พระแล้ว หลายคนยังนิยมสะเดาะเคราะห์ด้วยการปล่อยปลา เพราะถือว่าเป็นการปล่อยเคราะห์ลงแม่น้ำ ใครที่ดวงไม่ค่อยดี ถ้าทำบุญด้วยการให้ชีวิตสัตว์จะเป็นกุศลใหญ่ ส่งผลให้ชีวิตดีขึ้นได้ แต่รู้หรือไม่ว่าการปล่อยปลาแต่ละชนิดก็มีความหมายต่างกัน ปล่อยปลาตามวันเกิด วันไหนควรปล่อยปลาอะไรดี และปล่อยปลาตามวันเกิด จำนวนเท่าไร วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอแชร์เคล็ดลับการปล่อยปลาเสริมดวงมาฝาก รวมถึงปล่อยอย่างไรให้ปลารอดตาย ไม่ทำลายระบบนิเวศ มาดูกัน

ปล่อยปลา ความหมายของปลาแต่ละชนิด

          ปลาท้องถิ่นของไทยมีด้วยกันหลายสายพันธุ์ แต่ละชนิดมีความหมายในการทำบุญแตกต่างกันไป เรามารู้จักปลาชนิดต่าง ๆ และความหมายของปลาเหล่านี้กันค่ะ

          - ปลาไหล หมายถึง การเงิน การงาน การเรียน จะราบรื่น

          - ปลาหมอ หมายถึง เพื่อสุขภาพ

          - ปลาบู่ หมายถึง ทดแทนผู้มีพระคุณ

          - ปลาดุก หมายถึง ศัตรูคู่แข่งแพ้พ่าย

          - ปลานิล หมายถึง ทรัพย์สินเพิ่มพูน

          - ปลาช่อน หมายถึง ช้อนเงินทอง สิ่งที่ซ่อนเร้นจะได้พบ

          - ปลาทับทิม หมายถึง ทำอะไรราบรื่น

          - ปลาสวาย หมายถึง เงินทองคล่องตัว

          - ปลากราย เปลี่ยนเรื่องร้าย ๆ ให้กลับกลายเป็นเรื่องดี

          - ปลาขาว หมายถึง ปลานำโชค

          - ปลาจาระเม็ด หมายถึง จะได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย

          - ปลาไน หมายถึง ได้เป็นเจ้าคนนายคน

          - ปลาดุกเผือก หมายถึง ปลามงคล

          - ปลาซิว จะทำให้รอดพ้นจากคดีความต่าง ๆ

          - ปลาดำราหู หมายถึง สะเดาะเคราะห์ (แต่ปลาชนิดนี้จะทำร้ายปลาไทยอื่น ๆ ได้)

          นอกจากการปล่อยปลาที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีสัตว์ยอดนิยมอื่น ๆ ที่นิยมปล่อยกันตามความเชื่อ เช่น ปล่อยกบ หมายถึง ขออุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวร ตัดวิบากกรม, เต่า หมายถึง อายุยืนยาว, หอยขม หมายถึง ทิ้งความขมขื่น จะร่มเย็นเป็นสุข, หอยโข่ง หมายถึง หนทางโล่งเป็นผู้นำ ข้าทาสบริวารมาก, ตะพาบ หมายถึง ภัยคุกคามต่าง ๆ จะหายไป อัมพาตจะดีขึ้น อายุมั่นขวัญยืน และนก หมายถึง ชีวิตมีความก้าวหน้า รุ่งเรือง ดังนั้น ถ้าต้องการสะเดาะเคราะห์เรื่องใด หากเลือกปล่อยสัตว์ให้สอดคล้องกันด้วยจะยิ่งดี

ปล่อยปลาตามวันเกิด ปี 2564

          สำหรับผู้ที่เกิดแต่ละวัน มีเคล็ดในการทำบุญต่าง ๆ กันไป ดังนี้

          - ปล่อยปลา คนเกิดวันจันทร์ ให้ปล่อยนก หรือปลาทั่วไป

          - ปล่อยปลา คนเกิดวันอังคาร ให้ปล่อยหอยขม หรือปลาทั่วไป

          - ปล่อยปลา คนเกิดวันพุธ ให้ปล่อยปลาไหล

          - ปล่อยปลา คนเกิดวันพฤหัสบดี ให้ปล่อยเต่า หรือปลาทั่วไป

          - ปล่อยปลา คนเกิดวันศุกร์ ให้ปล่อยปลาหมอ

          - ปล่อยปลา คนเกิดวันเสาร์ ให้ปล่อยปลาไหล

          - ปล่อยปลา คนเกิดวันอาทิตย์ ให้ปล่อยปลาไหล

ปล่อยปลาตามวันเกิด กี่ตัวดี

          เรื่องจำนวนสัตว์ที่ปล่อย ถ้ามีกำลังทรัพย์ ให้ปล่อยมากกว่าอายุ 1 ตัว สำหรับคนที่มีรายได้น้อยไม่สะดวกเรื่องเงิน ให้ถือเคล็ดง่าย ๆ ว่า อายุลงท้ายเลขคู่ ให้ปล่อยสัตว์จำนวนเลขคี่ อายุลงท้ายเลขคี่ ให้ปล่อยสัตว์จำนวนเลขคู่ เช่น

          อายุ 24 ปล่อยสัตว์จำนวน เลขคี่ 1 3 5 7 9 ...ฯลฯ

          อายุ 25 ปล่อยสัตว์จำนวน เลขคู่ 2 4 6 8 10 12 14 ... ฯลฯ

สำหรับการปล่อยตามกำลังวันเกิด จะมีจำนวนต่างกันตามวันเกิด ดังนี้

          วันอาทิตย์ : ปล่อย 6 ตัว

          วันจันทร์ : ปล่อย 15 ตัว

          วันอังคาร : ปล่อย 8 ตัว

          วันพุธ (กลางวัน) : ปล่อย 17 ตัว

          วันพุธ (กลางคืน) : ปล่อย 12 ตัว

          วันพฤหัสบดี : ปล่อย 19 ตัว

          วันศุกร์ : ปล่อย 21 ตัว

          วันเสาร์ : ปล่อย 10 ตัว

บทสวดปล่อยปลา

          เวลาที่เราจะปล่อยปลาสะเดาะเคราะห์ทุกชนิด ให้กล่าวคาถาปล่อยสัตว์ บทนี้จะทำให้หมดสิ้นทุกข์ภัยไร้โรคา เสนียดจัญไร ทั้งหลายทั้งปวง ตามความเชื่อว่าสัตว์ที่เราปล่อยไปนั้นจะนำเอาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไปทิ้งยังที่ไกลแสนไกล เท่าที่สัตว์ทั้งหลายจะไปถึง

          คัจเฉวะ โข ตะวัง ตะระมา นะรูโป มะตัง อะมิตตา ปุนะ อัคคะเหสุง ทุกโข หิ ลุทโท หิ ปุมา สะมาคะโม อัทสะ สะนัง โภชะปุตตานัง คัจฉะ

          ทั้งนี้ ก่อนจะปล่อยให้เอาน้ำมาถ้วยหนึ่ง เทลงไปในถังที่ใส่สัตว์ที่จะปล่อยนั้น แล้วตั้งใจอธิษฐานจิตว่า “ข้าพเจ้า ชื่อ-นามสกุล เกิดวันที่ ...... เดือน ...... พ.ศ. .... อายุ ...... ปี ได้ปล่อยสัตว์ จำนวน ...... ตัว ข้าพเจ้าขอปล่อยเจ้าทั้งหลายให้เป็นอิสระ ข้าพเจ้าให้ชีวิตแก่เจ้า ช่วยให้พ้นจากการถูกเขาประหาร ขออุทิศบุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำในครั้งนี้ให้เจ้าทั้งหลาย จงเป็นผู้พ้นจากความทุกข์ความเดือดร้อนทั้งปวง และขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด”

ปลาแต่ละประเภทต้องอยู่ในน้ำแบบไหน

          สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงสำหรับการปล่อยปลาก็คือ สภาพแวดล้อมที่เหมาะกับปลาแต่ละชนิด เพราะถ้าปล่อยไม่ถูกที่ถูกทาง โอกาสที่ปลาจะไม่รอดก็มีสูงตามไปด้วย มาดูกันว่าปลาชนิดไหน ควรปล่อยในน้ำแบบไหนบ้าง

          ปลาไหล : ปลาประเภทนี้ควรปล่อยแถวที่มีดินแฉะ ๆ กระแสน้ำไหลไม่แรง เช่น คลอง ท้องนา ร่องสวน เป็นต้น ไม่ควรปล่อยลงแม่น้ำใหญ่ เพราะมีโอกาสรอดยาก

          ปลาตะเพียน / ปลาสวาย : ปลาประเภทเมื่อโตขึ้นขนาดตัวจะค่อนข้างใหญ่ ฉะนั้นเราจึงควรปล่อยในแม่น้ำที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้ยาว ๆ

          ปลากราย : ปลาประเภทนี้ควรปล่อยในแม่น้ำและคลอง

          ปลาช่อน / ปลาดุก / ปลาหมอ : ปลาประเภทนี้ควรปล่อยตามคลอง บึง แหล่งน้ำที่ไม่เชี่ยวหรือไหลแรงมาก ถ้าซื้อมาจำนวนมากควรแบ่งปล่อยให้กระจายตามจุดต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อปลาตัวเล็กตัวน้อยที่อยู่ในแหล่งพื้นที่ นอกจากนั้นยังไม่ควรปล่อยปลาดุกที่มาจากต่างถิ่น ปลาดุกลูกผสม ปลาดุกเผือก เพราะจะไม่สามารถอยู่ในแหล่งน้ำของไทยได้นั่นเอง  

          การปล่อยปลาหลายคนอาจคิดว่าได้บุญก็จริง แต่อย่าลืมว่าต้องคิดให้รอบคอบ รอบด้าน และศึกษาสภาพแหล่งน้ำที่เหมาะสมให้ดีก่อน ไม่อย่างนั้นอาจได้ทำบาปมากกว่าทำบุญนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : วารสารแม่โจ้ปริทัศน์, กรมประมง, horolive.com