ทำนายรัก "หนุ่มในฝัน" จากสีร่ม (WOMAN’S Story)
ช่วงนี้ "ร่ม" เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่คู่ควรสำหรับผู้หญิงเราเป็นอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ ก็แหม ! ฟ้าฝนไม่ค่อยจะเป็นใจแบบนี้ยืดอกพกร่มกันดีกว่า จุดนี้จะได้ไม่เปียกกันจนหมดความสวย จุดนี้จะได้ไม่ขาดความเชื่อมั่นยังไงล่ะคะ ว่าแต่ว่าสาวๆ รู้มั้ยคะว่า..สีร่มของคุณนั้นสามารถบ่งบอกถึงนิสัยใจคอความรักชอบส่วนตัวของคุณได้เหมือนกันนะคะ
ร่มสีแดง
บ่งบอกถ้าคุณคิดจะรักใครชอบใครเรื่องนิสัยใจคอ ไม่ได้เป็นตัวแปรอย่างเดียวนะคะ เพราะเขาคนนั้นต้องมีรูปร่างหน้าตาดีเป็นส่วนประกอบด้วยอันดับแรกๆ ด้วยค่ะ ถ้าผู้ชายคนที่เขามาจีบมีลักษณะดังกล่าวมาพร้อมด้วยแล้วล่ะก็ รับรองว่าคุณไม่ปล่อยให้เขาเดินผ่านไปอย่างแน่นอนค่ะ เค้าเรียกว่าแพ้คนหล่อว่างั้นเถอะ!!
ร่มสีเขียว
เนื่องจากคุณเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ยากพอสมควรนะคะ จึงทำให้คุณชอบคนที่มีความเป็นผู้นำสูง คุ้มครองดูแลปกป้องคุณได้ในทุกๆ สถานการณ์ อีกทั้งยังเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างมีมนุษยสัมพันธ์ดี มีความสามารถ มีหลักการชีวิต เรียกว่าชอบคนเอาการเอางานว่างั้น และสิ่งสำคัญเลยคือ มีน้ำใจ แหม ! สุภาพบุรุษมากๆ
ร่มสีม่วง
คุณชอบผู้ชายที่ดูดีค่ะ ดูดีในที่นี้ คือแต่งเนื้อแต่งตัวดี นิสัยดี วางตัวดี พูดจาดี คุณเป็นคนชอบผู้ชายที่รู้จักกาลเทศะ รู้ว่าอยู่ตรงไหนควรทำตัวยังไง นั่นล่ะ คือ หนุ่มในฝันของคุณเลยค่ะ ติดอยู่นิดเดียว คือ คุณเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่ง ไม่แสดงออก ฉะนั้น ผู้ชายที่จะเข้ามาในชีวิตคุณจะต้องกล้าที่จะลองเริ่มต้นกับคุณ คุณถึงจะยอมเปิดใจยอมรับและแสดงออกในสิ่งที่คุณรู้สึกออกมา
ร่มสีน้ำเงิน
คุณชอบร่มสีน้ำเงิน หมายถึงคนที่จะมาเป็นแฟนคุณนั้น ต้องมีความสามารถ มีความรู้ เรียกได้ว่าต้องเก่งอะไรประมาณนั้นพูดตรงๆ คือ คุณชอบคนที่เรียนเก่ง มีความรู้ เรียกว่าหนุ่มนักวิชาการเชิญทางนี้เลยค่ะ เพราะคุณชอบคนที่เรียนเก่ง พูดจามีหลักการ รู้จริงเห็นจริง
ร่มสีดำ
คุณชอบผู้ชายเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ สามารถปกป้อง คุ้มครองดูแลคุณได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังต้องมีความตั้งใจและพยายามร่วมด้วย และที่มากไปกว่านั้น คุณชอบผู้ชายที่เสียสละ เป็นหนุ่มนักกีฬาก็ยิ่งดี เพราะคุณจะรู้สึกถึงความหนักแน่นในตัวเค้า หรือจะพูดให้เข้าใจง่าย คือคุณหลงรักผู้ชายอบอุ่นได้อย่างง่ายดายเลยล่ะค่ะ..
ดูดวง ดูดวงไพ่ยิปซี ดูดวงความรัก ดูดวงเนื้อคู่ ดูดวงรายวัน ดูดวงแม่นๆ คลิกที่นี่
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือ WOMAN’S Story ปีที่ 12 ฉบับที่ 273 ธันวาคม 2554
